Archive for มิถุนายน 2015
ปัญหาการสร้างเสริมสุขภาพของประชาชนในชุมชนเมือง
ปัญหาการสร้างเสริมสุขภาพของประชาชนในชุมชนเมือง
1.ปัญหาการดูแลรักษาความสะอาด
ชุมชนเมืองมีประชากรหนาแน่นมากตามความเจริญของเมืองสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ
เปลี่ยนแปลงไปขาดความสมดุลตามธรรมชาติเนื่องจากมนุษย์ได้สร้างเครื่องมือเครื่องใช้เพื่อประกอบการและอำนวยความสะดวก สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติถูกทำลายด้วยสิ่งที่มนุษย์ได้สร้างขึ้นมาแทน ทำให้มนุษย์ต้องสูญเสียสิ่งที่ช่วยสร้างสุขภาพและอนามัยของชุมชนบางส่วนไปและเกิดโทษตามมาแทนการดำรงชีพของชุมชนในเมืองเปลี่ยนไปพึ่งอุตสาหกรรม สิ่งแวดล้อมทางเศรษฐกิจและสังคมทำให้วิถีชีวิตของคนในชุมชนเมือง
ต่างพึ่งตนเองต้องแข่งขันในทางเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อมในเมืองกำลังจะเต็มไปด้วยสิ่งมีพิษและอันตรายต่อชีวิต
2.ปัญหาการรักษาฟันให้แข็งแรง และแปรงฟันทุกวันอย่างถูกต้อง
และ ปัญหาล้างมือให้สะอาดก่อนกินอาหารและหลังการขับถ่าย
และการออกกำลังกาย
เนื่องจากคนที่อยู่ในชุมชนเมืองเต็มไปด้วยความเร่งรีบ
และการแข่งขัน จึงทำให้ละเลยในการรักษาสุขภาพของฟัน เช่น
การไปพบทันตแพทย์ปีละสองครั้ง หรือ การแปรงฟันหลังอาหาร รวมทั้งละเลยในการล้างมือ
ก่อนรับประทานอาหาร ละเลยการออกกำลังกาย
อีกทั้งในเมืองไม่มีสถานที่ในการออกกำลังกายที่เหมาะสมและเพียงพอต่อความต้องการ
3.ปัญหาการรับประทานอาหาร
คนที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองมักประสบปัญหาความเครียด
คนที่เครียดเรื้อรังจะมีปัญหาการรับประทานอาหารได้ 3
รูปแบบกล่าวคือ
· น้ำหนักเกิน
เนื่องจากเมื่อเกิดความเครียดผู้ป่วยจะรับประทานอาหารเค็ม มัน หวานเพื่อไปต่อสู้กับความเครียด
และทำให้เกิดลักษณะอ้วนลงพุง
· น้ำนักลดลงเนื่องจากเบื่ออาหาร
· มีการรับประทานอาหารผิดปกติ เช่น Anorexia
nervosa and bulimia nervosa
คนที่อาศัยอยู่ในเมืองมักจำเป็นต้องใช้จ่ายอย่างประหยัดเนื่องจากค่าครองชีพสูงทำให้ไม่สามารถซื้ออาหารที่มีคุณภาพซึ่งมีราคาสูงได้
รวมทั้งค่านิยมการรับประทานอาหารจำพวก fast food ของคนในชุมชนเมือง
4.ปัญหา บุหรี่ สุรา สารเสพย์ติด การพนัน
และการสำส่อนทางเพศ
ปัญหาสิ่งแวดล้อมทางสังคม
ที่นำไปสู่การใช้ยาเสพติด ของเด็กและเยาวชนทั้งที่อยู่ในแหล่งเสื่อมโทรมหรือแหล่งอื่น
ๆ ได้แก่ ปัญหาทางเศรษฐกิจที่ครอบครัวมีรายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย เพราะไม่มีความมั่นคงทางอาชีพ
เป็นแรงงานนอกระบบไม่มีกฎหมายคุ้มครอง ปัญหาสาธารณสุข สุขภาพอนามัยเสื่อมโทรม
อันเป็นผลมาจากสิ่งแวดล้อมที่เป็นมลพิษในชุมชน ปัญหาการติดเชื้อโรคเอดส์
ปัญหาสังคมอื่น ๆ ปัญหาความแตกแยกในครอบครัว ปัญหาการค้าประเวณี
และปัญหาแหล่งอบายมุข ประเภทต่าง ๆ ที่มีอยู่ ปัญหาเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งแวดล้อมทางสังคม
ที่มีส่วนในการผลักดันเด็กและเยาวชนหันเข้าหายาเสพติดทั้งสิ้น
5.ปัญหาความสัมพันธ์ในครอบครัว
ปัจจุบัน คู่สมรสในเมืองที่แต่งงานใหม่
นิยมที่จะแยกอยู่ลำพัง เป็นครอบครัวเดี่ยว มีอิสระ
ไม่ต้องเป็นที่เพ่งเล็งของญาติผู้ใหญ่
และคิดว่าสามารถจะประคองชีวิตครอบครัวของตัวเองให้ประสบความสำเร็จได้
เมื่อมีลูกก็คิดว่าจะเลี้ยงด้วยตัวเอง เลี้ยงแบบสมัยใหม่
ในขณะที่คู่สมรสบางคู่ยังอยู่ในครอบครัวเดิมที่อบอุ่น มี ปู่ ย่า ตา ยาย
ช่วยดูแลหลาน ๆ มีความเข้าใจกัน ในครอบครัวก็มี
จากประสบการณ์ในการทำงานที่แผนกผู้ป่วยนอก ศูนย์สุขวิทยาจิต พบว่า
เด็กที่มีปัญหาทางอารมณ์มาจากครอบครัวเดี่ยว และครอบครัวขยาย ในจำนวนใกล้เคียงกัน
แต่เมื่อศึกษาถึงสาเหตุของปัญหาเนื่องมาจากการสื่อสารในครอบครัวเป็นสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งการสื่อสารที่แสดงถึงการตำหนิติเตียน
ความไม่พอใจ ซึ่งเป็นทางลบมากกว่าการแสดงออกทางบวก
6.ปัญหาอุบัติภัย
ในสังคมเมืองนั้นเกิดอุบัติภัยมากมายหลายรูปแบบ
สำหรับในชุมชนเมืองอุบัติภัยที่พบมักเป็นอุบัติภัยตามท้องถนน ซึ่งทำให้เกิดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก
ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจาก
1.ความประมาท
2.การดื่มสุรา
3. จำนวนผู้ต้องการเดินทางในเมืองมีมากขึ้น
4.ความขัดข้องของยานพาหนะ
เป็นต้น
7.ปัญหาจิตสำนึกของสังคม
จิตสำนึกสาธารณะก็คือจิตสำนึกของสังคม ที่ถ่ายทอดสืบต่อกันมาตราบเท่าที่ยังมีการดำรงอยู่ของสังคม ท่ามกลางกระแสเปลี่ยนแปลงอันเนื่องมาจากการปฏิวัติอุตสาหกรรม
ความก้าวหน้าของอุตสาหกรรม ที่มาควบคู่กับการเจริญทางเทคโนโลยีและการเจริญเติบโตของเมือง
ทำให้วิถีชีวิตในแบบชุมชนดั้งเดิมถูกผลกระทบไปด้วย ทั้งเรื่องวิถีชีวิตและการอพยพเคลื่อนย้ายแรงงาน ย่อมกระทบถึงการดำรงอยู่ของสังคมในรูปแบบเดิมๆ และกระทบถึงจิตสำนึกของสังคมด้วย ก่อให้เกิดปัญหาเรื่องจิตสำนึกสาธารณะจากวัฒนธรรมปัจเจกชน
8.ปัญหาด้านจิตใจ
สาเหตุความเครียดในชุมชนเมือง
จากสภาวะแวดล้อมในเมือง ทำให้เกิดความเครียดได้ในลักษณะที่เรียกว่า “ร่างกายเครียด” จากการที่ร่างกายกับจิตใจมีความเกี่ยวข้องกัน
แยกจากกันไม่ได้ การเกิดความเครียดทางร่างกายย่อมส่งผลให้จิตใจเครียดตามด้วย
ซึ่งปัจจัยทางร่างกายที่ก่อให้เกิดความเครียด ได้แก่
- ความเหนื่อยล้าทางร่างกาย
ในชุมชนเมืองนั้นชีวิตที่เร่งรีบและการแข่งขัน ทำให้เกิดการทำงานอย่างหนัก
และติดต่อกันเป็นเวลานาน เกี่ยวเนื่องมาจากสภาพความสมบูรณ์แข็งแรงของร่างกายที่จะทำให้แต่ละคนมีความพร้อมในการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันแตกต่างกัน
- ภาวะโภชนาการได้แก่
ลักษณะนิสัยการรับประทานอาหารที่จะมีผลต่อความสมบูรณ์แข็งแรงของร่างกาย
การรับประทานอาหารไม่ถูกส่วน ไม่ถูกสุขลักษณะ การรับประทานอาหารไม่เพียงพอหรือมากเกินไป
ซึ่งเกิดจากชีวิตที่เร่งรีบในชุมชนเมือง การใช้หรืออาการบริโภคสารบางประเภท อาทิ
สุรา บุหรี่ ชา กาแฟ ตลอดจนสารเสพติดต่างๆ เหล่านี้ ล้วนทำให้เกิดความเครียดได้
ท้องผูกอยู่ใช่ไหม เลี่ยงเลยอาหาร10อย่างนี้
ท้องผูกอยู่ใช่ไหม เลี่ยงให้ไกลเลยอาหาร 10 อย่างนี้
อาการท้องผูกเกิดขึ้นได้กับทุกคน อยู่ที่ว่าระบบขับถ่ายของใครจะเกเรได้มากกว่ากัน แต่ทั้งนั้นทั้งนี้อาการท้องผูกก็เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการรับประทานอาหารของเราโดยตรงด้วยนะคะ ฉะนั้นหากคุณก็เป็นคนหนึ่งที่ท้องผูกบ่อย ๆ แถมถ่ายก็ยากอีกต่างหาก ลองเลี่ยงอาหารเหล่านี้สิ แล้วมาดูกันว่าชีวิตจะดีขึ้นไหม
1. ช็อกโกแลต
ช็อกโกแลตเป็นตัวโกงในที่นี้ก็เพราะความอุดมสมบูรณ์เกินไปของไขมันนั่นเอง โดยไขมันจะเข้าไปขัดขวางการทำงานของระบบย่อยอาหาร ส่งผลให้ลำไส้แปรปรวน ยิ่งเฉพาะกับคนที่มีภาวะ IBS (Irritable Bowel Syndrome) หรือภาวะที่ลำไส้มีการทำงานผิดปกติอยู่แล้ว หากกินช็อกโกแลตเข้าไปจะยิ่งทำให้ถ่ายยากมากขึ้น
2. ผลิตภัณฑ์จากนม
ผลิตภัณฑ์จากนมโดยเฉพาะชีส เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีแลคโตสสูง และแลคโตสตัวนี้นี่ล่ะที่เป็นสาเหตุของการมีแก๊สในกระเพาะและทำให้ท้องอืด ซึ่งก็กระทบไปถึงการทำงานของลำไส้และกระบวนการชำระของเสียออกจากร่างกาย ดังนั้นคนที่ดื่มนมหรือบริโภคผลิตภัณฑ์จากนมมากเกินไป อาจเกิดอาการท้องผูกหรือท้องไส้แปรปรวนได้
เนื้อแดงหมายถึงเนื้อวัว เนื้อแกะ และเนื้อลูกแกะ ซึ่งเป็นหมวดเนื้อสัตว์ไขมันสูง อีกทั้งโปรตีนของเนื้อประเภทนี้ยังเป็นโปรตีนที่ร่างกายเราย่อยลำบาก ดังนั้นหากบริโภคเนื้อแดงเกินพิกัดโดยที่ไม่กินผักผลไม้ร่วมด้วยเลย แน่นอนว่าคุณต้องเจอภาวะท้องอืด จุกเสียดแน่น และท้องผูกชัวร์ ๆ
กล้วยที่ยังไม่สุกงอมได้ที่จะมีปริมาณแป้งมาก อีกทั้งเป็นแป้งประเภทที่ร่างกายไม่ค่อยจะยอมย่อยสักเท่าไร นอกจากนี้กล้วยดิบยังมีไฟเบอร์ที่เรียกว่า เพคติน ซึ่งเป็นไฟเบอร์ชนิดดูดน้ำจากลำไส้ออกไปจากร่างกายด้วย ดังนั้นหากคุณมีภาวะขาดน้ำหรือดื่มน้ำน้อยเป็นปกติอยู่แล้ว กล้วยดิบก็เป็นอาหารที่ควรเลี่ยงอย่างแรง เพราะนอกจากจะทำให้ระบบขับถ่ายพังแล้วยังทำให้รู้สึกอ่อนเพลียจากภาวะขาดน้ำด้วยนะ
5. คาเฟอีน
คาเฟอีนที่มีอยู่ในเครื่องดื่มประเภทกาแฟ ชาดำ และช็อกโกแลต ล้วนแต่เป็นสาเหตุหนึ่งของอาการท้องผูกเช่นกัน เนื่องจากคาเฟอีนมีฤทธิ์แย่งน้ำจากร่างกายของเรา และทำให้ลำไส้ปรวนแปรได้มากพอสมควร ฉะนั้นหากวันไหนดื่มชา กาแฟหนัก ๆ แล้วเกิดอาการท้องเสียหรือท้องผูกจนละเหี่ยใจ ให้รู้ไว้เลยว่านี่แหละผลพวงจากคาเฟอีนที่เล่นคุณเข้าให้แล้ว
6. อาหารหวาน ๆ
อาหารหวานและน้ำหวานทุกชนิดมีน้ำตาลและไขมันแอบแฝงอยู่มาก และเจ้า 2 ตัวนี้นี่ละทีเด็ดของอาการท้องผูกและเป็นสาเหตุที่ทำให้ระบบขับถ่ายรวนเร เนื่องจากน้ำตาลและไขมันจะเข้าไปรบกวนน้ำและไฟเบอร์ในร่างกายเรา จนไฟเบอร์และน้ำเหลือน้อยนิด ไม่เพียงพอต่อการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพของระบบขับถ่าย
7. ฟาสต์ฟู้ด
อาหารหน้าเดิม ๆ ที่ส่งผลกระทบกับสุขภาพของเราหลายด้าน ทั้งมีคอเลสเตอรอลสูงจนเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคอ้วนก็น่าเป็นห่วง และยังมีเอี่ยวกับการทำงานอันผิดปกติของระบบขับถ่ายด้วย เนื่องจากฟาสต์ฟู้ดมีปริมาณไขมันและเป็นอาหารที่ผ่านกระบวนการทางเคมีมามาก ดังนั้นร่างกายเราเลยย่อยไม่ค่อยไหว คราวนี้ก็เลยเกิดภาวะท้องผูกเลยน่ะสิ
8. อาหารที่มีธาตุเหล็กสูง
ธาตุเหล็กเป็นสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้เกิดภาวะท้องผูกอยู่่แล้ว ฉะนั้นหากคุณเป็นคนที่ขับถ่ายง่ายมาโดยตลอด แต่เกิดอาการท้องผูกขึ้นอย่างไม่ทราบสาเหตุ ลองเดาดูซิว่าพักนี้คุณจัดหนักอาหารประเภทเครื่องในสัตว์ ตับ หอยแมลงภู่ หอยนางรม หรือวิตามินและอาหารเสริมที่มีธาตุเหล็กสูงบ้างหรือเปล่า เพราะอาหารเหล่านี้นี่แหละตัวการ
9. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีกระบวนการผลิตที่เกิดจากการหมักของข้าวขาว น้ำตาลทรายขาว ยีสต์ แป้งขัดสี หรือแม้แต่เบกกิ้งโซดา ซึ่งทั้งหมดเป็นอาหารที่ร่างกายย่อยลำบาก จึงทำให้การขับถ่ายดูเป็นเรื่องยากไปด้วย
10. เบเกอรี
ขนมปังทุกชนิดที่ทำมาจากแป้งขัดสี ยีสต์ เบกกิ้งโซดา น้ำตาลทรายขาว และข้าวขัดสีล้วนแต่เป็นอาหารที่ลำไส้ไม่ค่อยปลื้มสักเท่าไร เลยไม่ยอมย่อยจนขับออกยากซะอย่างนั้น
อาหารเหล่านี้จริง ๆ ก็มีประโยชน์กับร่างกายอยู่บ้าง หรือบางชนิดก็มีประโยชน์กับร่างกายไม่น้อยเลยล่ะ ทว่าหากตอนนี้คุณกำลังมีปัญหากับระบบขับถ่ายอยู่ก็ควรห่างกันสักพักกับอาหารทั้ง 10 อย่าง หรือหากไม่อยากเจอภาวะท้องผูก ถ่ายลำบากก็ควรจำกัดปริมาณการกินให้เหมาะสม รวมทั้งอย่าลืมบริโภคผักผลไม้เด็ดขาดเชียว
ข้อมูลจาก Kapook.com
5 กิจกรรมฝึกสมอง
5 กิจกรรมฝึกสมอง ถ้าได้ลองแล้วสมองจะเฮลท์ตี้
สมองเป็นอวัยวะที่ทำงานหนักพอสมควร ยิ่งถ้าต้องเรียนและทำงานทั้งวัน สมองคงอ่อนล้าจนและอาจจะมีประสิทธิภาพถดถอยลงได้ ดังนั้นนิตยสาร happy+ โดยคุณ Bella เลยแนะนำกิจกรรมฝึกสมองมา 5 กิจกรรมด้วยกัน ซึ่งเป็นกิจกรรมน่าสนุกที่ทำไม่ยากอีกด้วยนะ
เข้าสู่เดือนมิถุนายน กลางปี พ.ศ. 2558 แล้ว คุณผู้อ่านทำตามแผนที่ว่า “ปีนี้เราจะทำอะไรเพื่อให้ชีวิตดีขึ้น” ไปถึงไหนแล้วคะ อยากบอกว่าตัวผู้เขียนเอง พยายามแล้วพยายามอีกก็ยังไม่ได้เริ่มเสียที เช่น ออกกำลังกายให้ได้อาทิตย์ละ 2-3 วัน ไปเที่ยวต่างประเทศปีละ 2 ครั้ง สวดมนต์ก่อนนอนทุกคืน ฯลฯ
อาจจะเป็นเพราะวุ่น ๆ อยู่กับการทำงาน จนไม่มีเวลาให้กับสิ่งที่ตั้งใจอยากทำ (หาข้อแก้ตัว ปลอบใจตัวเอง) วันไหนทำงานหนัก เลิกดึก สมองก็มักจะเหนื่อยล้าอยากพักผ่อนไม่แพ้ร่างกายของเราเลย ส่งผลอย่างต่อเนื่องให้เช้าอันสดใสกลับขุ่นมัวเหมือนมีกลุ่มเมฆบาง ๆ โรยตัวอยู่รอบ ๆ ศีรษะ ไม่เคลียร์ ไม่แจ่มชัด จึงอยากแนะนำให้ผู้อ่านทุกท่านดูแลสมองของเราให้กระปรี้กระเปร่า ปลอดโปร่งอยู่ตลอดเวลา เพื่อสุขภาพที่ดีของร่างกาย ลองทำตามกันดูนะคะ
ทำกิจกรรมศิลปะ
เป็นการฝึกในเรื่องของความคิดสร้างสรรค์ เพราะศิลปะเป็นเรื่องที่ทำให้ความสนุกสนาน ท้าทาย และเปิดให้สมองซีกขวาของเราทำงานได้อย่างเต็มที่ เดี๋ยวนี้มีสมุดระบายสีสำหรับผู้ใหญ่วางขาย เวลาว่างหยิบออกมาแต่งแต้มสีสัน นอกจากจะช่วยผ่อนคลายอารมณ์แล้ว ยังได้บริหารสมองอีกด้วยค่ะ
คิดเลขด้วยตัวเอง
เรามักคุ้นชินกับการใช้เครื่องคิดเลขในการคำนวณต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ลองเปลี่ยนมาคิดเลขด้วยตัวเองดูบ้าง เช่น ตอนเดินซื้อของในตลาด หยิบจ่าย รับเงินทอน บวกรวมของที่ซื้อมาก็ดีนะคะ หรือจะซื้อเกมลับสมองอย่าง ซูโดกุ (การเติมตัวเลขในแนวตั้ง แนวนอนในพื้นที่ 3x3 6x6 9x9) มาเล่นก็เพลินไปอีกแบบ
ร้องเพลงโปรด
การร้องเพลงก็เป็นอีกหนึ่งการบริหารสมองที่ดี หากมีโอกาสอย่ารอช้า รีบคว้าไมค์ร้องตามทำนองเพลง สร้างความสนุกสนานครื้นเครงกันได้เลยค่ะ
เล่นดนตรี
เลือกเครื่องดนตรีที่ชอบขึ้นมาเล่นสักชิ้น ไม่ว่าจะดีด สี ตี เป่า ทำให้วันว่าง ๆ เกิดประโยชน์ แถมสมาธิยังดีขึ้น เพราะเราจดจ่อต่อโน้ตดนตรีต่าง ๆ อีกด้วย
อ่านหนังสือ
ช่วยให้สมองของเราได้ทำงานทั้งด้านการจำและจินตนาการ ยิ่งได้อ่านหนังสือประเภทกวีหรือบทกลอนก็ยิ่งดีต่อสมอง ซึ่งสามารถเลือกได้ ไม่จำกัดแนว
เล่นหมากกระดาน
เกมจำพวกหมากฮอต หมากรุก หมากล้อม โกะ เป็นการเล่นเกมเพื่อหาวิธีชนะคู่แข่ง ทำให้สมองของเรามีการทำงานอย่างเต็มที่ ทั้งในด้านการวางแผน การจัดการ ตรรกะและเหตุผล ถือเป็นวิธีบริหารสมองที่ดีวิธีหนึ่งเลยทีเดียว
เห็นอย่างนี้แล้ว คิดเหมือนกันไหมคะว่าเป็นวิธีบริหารสมองที่ง่ายมากเหมาะกับทุกคน ฉะนั้นอย่ารอช้า รีบเลือกวิธีที่ถูกใจแล้วลงมือทำกันเลยดีกว่าค่ะ อย่าปล่อยให้สมองของเราส่งสัญญาณเตือนว่าไม่ไหวแล้ว ลงมือทำก่อน ย่อมเกิดประโยชน์ต่อตัวเองอย่างแน่นอน ว่าแล้วผู้เขียนขอตัวไปเดินเลือกหนังสือดี ๆ สักเล่ม อย่าง happy+ มาเป็นอาหารสมองก่อนนะคะ
เ
รียบเรียงโดย kapook.com
ขอขอบคุณข้อมูลจาก